ข่าวการเมือง

  14 พ.ค.66 เวลา 12.30 น.นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางมา ที่ หมู่ 5 ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อหย่อนบัตรเลือกตั้ง พร้อมชวนคนไทยออกมาใช้สิทธิกันให้เยอะๆ  ภายหลังการหย่อนบัตรเสร็จ นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล กล่าวขอเชิญชวนคนไทยออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง เพื่อเป็นวิถีของประชาธิปไตย กันให้มากๆ ก่อนปิดหีบวันนี้

 19 เมษายน 66 เวลา 17.00 น.นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล คณะทำงานรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง และผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเดินหน้าเข้าพบพี่น้องภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาที่เหมาะสมพูดคุย นำเสนอนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ หวังมุ่งเน้นทำให้พี่น้องภาคเหนือเข้าใจพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น ย้ำหัวหน้าพรรคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เหมาะที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลในการจัดตั้งรัฐบาล ขอให้พรรคอื่นอย่าดักหน้าดักหลังคนอื่น เมื่อเวทีเปิดกว้างมาแข่งกันว่าใครจะได้ใจชาวบ้านดีกว่า นโยบายใครดีกับพ่อแม่พี่น้อง ใครดูแลพ่อแม่พี่น้องได้ เขาก็รักและพร้อมสนับสนุน นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล เผย วันนี้ตนได้ลงมาพูดคุยกับพี่น้องชาว อ.วังโป่ง เพชรบูรณ์ โดยมุ่งเน้นในด้านนโยบายออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี  ให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน และอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า และออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้ผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาปากท้องของพ่อแม่พี่น้องเป็นหลัก วันนี้การหาเสียงสนับสนุนผมรู้สึกว่าเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ว่าทุกจุดที่ผมกำลังจะลงพบปะพี่น้องเริ่มมีการเคลื่อนไหวของพรรคอ

  นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล ผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เผยเวลานี้เป็นเวลาที่สำคัญยิ่ง นับถอยหลังไม่กี่วันก็จะมีการเลือกตั้ง ผู้แทนราษฏร ในวันที่ 14 พ.ค.2566 สำหรับการลงพื้นที่สนับสนุนงานของพรรคฯตนได้เร่งเข้าหาพี่น้องผู้สนับสนุนเป็นหลักเพราะรู้ว่าจุดที่ลงไปหวังผลได้แน่นอน เพื่อย้ำขอคะแนนทั้งพรรคและเขต โดยหวังประชาชนพ่อแม่พี่น้องเลือกเบอร์พรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 พร้อมให้ความมั่นใจถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตนจะลงมาดูแลพ่อแม่พี่น้องเหมือนญาติสนิทแน่นอน แม้บางครังจะมีคนปรามาสบ้างว่าทำงานเกินเบอร์ ตนไม่ได้แคร์อยู่แล้ว ถ้าจบการเลือกตั้งและหมดวาระในหน้าที่ฝ่ายการเมือง ถ้าไม่มีหน้าที่ในการทำงานก็พร้อมทำงานที่บ้านเลี้ยงลูก ทั้ง 3 คน นายพิศณุพงศ์ฯเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตนได้เข้าพบบุคคลจากหลายกลุ่มหลายองค์กร วันนึงหลายจุดทางภาคเหนือ ตามหน้าที่ ที่ท่านรองหัวหน้าพรรค ท่านนราพัฒน์ แก้วทอง ได้เน้นย้ำคะแนนปาร์ตี้ลิสต์สำคัญ ตนมั่นใจกระแสทางภาคเหนือดีขึ้นแน่นอน ตนยังคงจะใช้ยุทธศาสตร์การปราศรัยย่อยและการเข้าพบแกนนำของกลุ่มต่างๆแต่ละจังหวัด พร้อมการปราศรัยที่มีผู้สนับสนุนม

 7 เม.ย.2566 นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล พร้อมผู้สมัคร สส.จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยังตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เปิดเวทีหารืออ้อนแกนนำพี่น้อง”พิษณุโลก”และตัวแทนจังหวัดทางภาคเหนือ ขอโอกาส”นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณมวลชนที่สนับสนุนตน ถึงแม้จะสังกัดพรรคการเมืองไหนก็คอยเคียงข้าง นายพิศณุพงศ์ฯเปิดเผย เดิมทีวันนี้เราได้พูดกันมาซักระยะกับพี่น้องกลุ่มมวลชนซึ่งตัวผมเองมีพี่น้องสนับสนุนอยู่หลายกลุ่ม ว่าถ้าตนตัดสินใจจะทำงานเพื่อพ่อแม่พี่น้องกับพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความคิดเห็นเช่นไร แกนนำกลุ่มของพี่น้องในวันนี้เป็นเพียง 1 กลุ่ม ที่มีแกนนำอยู่หลายจังหวัดทางภาคเหนือทุกคนไม่มีปัญหาเพราะทุกคนให้ความเชื่อใจตนอยู่แล้วพร้อมจะเป็นแรงสนับสนุน จึงได้นัดตัวแทนกลุ่มพี่น้องทางภาคเหนือเพื่อมารวมตัวกันครั้งนี้เพื่อพูดคุยถึงแนวทางที่จะดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องจริงๆแล้ววันนี้ ทางแกนนำได้นัดรวมตัวกันหลายพันคน แจ้งผมว่า 3,000 คนมาแน่นอน ตนจึงแจ้งกลับไปขอให้ทุกคนไม่ต้องลำบากมาหาผมก็ได้ เดี๋ยวตนจะเดินทางไปพบพี่น้องทางภาคเหนือเอง ซึ่งมีกว่า 26 จังหวัดรวมภาคอีสา

    ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเวลา 11.00น.วันนี้ 2 เมษายน 2566 ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคและแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งรับผิดชอบดูแลผู้สมัคร สส.20 จังหวัดภาคอีสานและนายจำลอง ครุฑขุนทด  ได้นำผู้สมัครของพรรค รทสช.ทั้ง 16 เขตเลือกตั้งของจ.นครราชสีมา อาทิ นายประนอม โพธิ์คำ ,นายประกิจ วิเศษจินดาวัฒน์และนายอนันต์ อาบสุวรรณ ไปสักการะขอพรท้าวสุรานารี(ย่าโม) ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมาเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนจะเดินทาไปยื่นใบสมัคร ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80  พรรษาฯ จ.นครราชสีมา จากนั้นได้นำผู้สมัครทั้งหมดลอดประตูชุมพลซึ่งเป็นประตูเข้าเมืองโคราชและเดินพบปะหาเสียงไปตามร้านค้าต่างๆสองฝั่งถนนจอมพลท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น โดยนายอนันต์ อาบสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 1ได้เชิญชวนให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาช่วยกันเลือกผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อได้ทำงานพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องตามสโลแกน ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ  ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์  แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติภาคอีสานกล่าว

 วันที่ 1 เมษายน ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ อีสาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา และ เป็นคณะกรรมการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมา สื่อสารไปยังทางด้าน ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ กรุ๊ป ผู้ส่งออกเนื้อไก่ไทยรายใหญ่ของไทย อีกครั้งว่า หากท่านต้องการให้ผู้อื่นเห็นคุณค่าของสมาคมท่าน  และท่านอ้างว่าสิ่งที่พูดไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง คงต้องบอกให้ท่านกลับไปอ่าน บทสัมภาษณ์ ก่อนหน้านั้นอีกสักรอบ เพราะทุกบรรทัดล้วนแล้วเป็นเรื่องการเมือง และโจมตีรัฐบาล ไม่ว่าเรื่องการบริหารงาน การทุจริตคอรัปชั่น การดูแลด้านสาธารณสุข เรื่องค่าจ้างแรงงาน จริงอยู่ท่านไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่สิ่งที่ทุกคนได้อ่านก็เข้าใจตรงกันว่าท่านกำลังโจมตี รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ ในการบริหารประเทศ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าจะให้เด็กเคารพ ก็ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างให้เด็กเคารพ อย่าให้เด็กถอนหงอก เอาตอนแก่ ทำเฉไฉ ในสิ่งที่ตัวเองพูด ไม่รับผิดชอบต่อคำพูดตัวเอง ปากท่านพูดเพื่ออะไรต้องรู้แก่ใจตัวเอง ว่ามีอคติหรือไม่ ใครฟังก็อ่านออกว่า

  30 มีนาคม 2566 นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือซึ่งนำโดย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเดินชนทุกพรรค เพื่อดึงกระแสความนิยมจากฐานคะแนนเดิมและฐานคะแนนใหม่เพื่อ ปูทางสู่การเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลสนับสนุน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั่งนายกรัฐมนตรี ไม่สนพรรคอื่น โพลไหนเพราะเชื่อมั่นพรรคประชาธิปัตย์ดีพอเป็นผู้นำรัฐบาล นายพิศณุพงศ์ฯ เผย นับเวลาอีกไม่นานก็จะมีการเลือกตั้ง สส.เกิดขึ้น ตนเชื่อภาคเหนือของประเทศไทย มีกระแสความนิยมในตัวพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้นกว่าปี 62 แน่นอน ทั้งตัวบุคคลว่าที่ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีคุณภาพคับแก้ว พร้อมเป็นตัวแทนของประชาชนในสภาผู้แทนราษฎรแทบจะทุกคน ซึ่งทางภาคเหนือ ท่านรองหัวหน้าพรรคฯท่านนราพัฒน์ แก้วทอง ท่านใส่ใจในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ภาคเหนือพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีจุดแข็งคือสถาบันการเมืองที่ยาวนานที่สุดของประเทศอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่พี่น้องประชาชนจะมองไม่เห็นผลงานต่างๆของพรรคฯที่พิสูจน์มาแล้วกว่า 78 ปี ตนรับอาสาลงพื้นที่ภาคเหนือจากท่านรองหัวหน้าพรรคฯใน