ข่าวการเมือง

 28 กุมภาพันธ์ นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย วิจารณ์เวทีปราศรัยพรรครวมไทยสร้างชาติที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่มีคนฟังหรือนโยบายใหม่ๆ โดยระบุว่า หากนายก่อแก้วได้ไปฟังการปราศรัยก็จะเห็นว่ามีประชาชนมาฟังการปราศรัยจำนวนมากกว่าเวทีของพรรคเพื่อไทยเยอะแยะในหลายๆจังหวัด  ส่วนเรื่องนโยบายนั้น นายกฯได้ย้ำตลอดว่าการเสนอนโยบายใดๆจะต้องดูว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ และต้องดูว่างบประมาณเพียงพอหรือไม่ และการที่พล.อ.ประยุทธ์ นำเรื่องเดิมมาพูดก็เพราะว่าเป็นผลงานที่นายกฯหรือรัฐบาลได้ทำไว้ให้กับประชาชน และอยากให้รู้ว่านายกฯสามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตนเองมองว่าทำได้มากกว่ารัฐบาลนายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์อีก เพราะสองรัฐบาลนี้มีแต่เรื่องการทุจริตในหลายๆโครงการจนต้องเผ่นหนีกระเจิงออกนอกประเทศ สำหรับนโยบายใหม่ๆก็ไม่ใช่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่มี โดยจากนี้ไปช่วงการหาเสียง พรรคจะทยอยเปิดนโยบายใหม่ๆให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องมากังวล นโยบายจะไม่มีขี้โม้โอ้อวดเหมือนพรรคเพื่อไ

27 ก.พ. 66 18.00 น.นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติและประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมทานข้าวที่บ้าน ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 1 นายพิชัย เกียรติวินัยสกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี เขต 1 ซึ่งการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ นายพิชัย เกียรติวินัยสกุล จะลงสมัคร สส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 1 แน่นอน พร้อมคาดการพรรครวมไทยสร้างชาติต้องมี สส.ที่ลพบุรีอย่างน้อย 2 ที่นั่ง เดิมทีท่านพิชัย เกียรติวินัยสกุล อดีตเป็นสมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี และท่านเคยได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง สส.เมื่อปี 54 และครั้งที่แล้ว ปี 62 ลงสนามเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฏร ได้คะแนน 29,375 คะแนน ครั้งนี้ทางผมมั่นใจว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงในนาม พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 1 ลพบุรี การันตี เขต 1 ได้เลย พร้อมยังมาพูดคุยกันหลายเรื่องทั้งการทับซ้อนของผู้สมัคร ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งลพบุรี มีทั้งหมด 4 เขต เดิมทีมีการวางตัวของทีมงานไว้แต่ละเขต ที่จะลงสมัคร ไว้แล้ว เขต 1 นายพิชัย เ

 26 ก.พ.2566 – นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)  โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ เสร็จภารกิจสำคัญที่โคราช ถ้า”เหนื่อยมาก เครียดมาก”ก็หาเวลาส่วนตัวซื้อ”ไอติม” กินให้สดชื่น แต่งตัวชิวๆสบายๆ อย่าเครียดจนเส้นเลือดสมองแตกนะโว้ย..นายแรมโบ้” ดูแลชีวิตห่วงใยตัวเองบ้างนะ”. โดยมีแฟนคลับ ต่างเข้ามาคอมเม้นท์ ชื่นชมว่า ขอชื่นชมคุณแรมโบ้เก่งมาก  ,ดูแลสุขภาพด้วยนะคะจะได้ช่วยลุงตู่ต่อไป, ขอบคุณนะคะที่รักในหลวง รักชาติ รักลุงตู่สู้ๆ ค่ะ ,คนรักลุงตู่ต้องมีคุณความดีคุ้มครอง, เหนื่อยแทนเลยค่ะ แต่ก็ดีใจคนมาเยอะเลยคุณแรมโบ้สู้ๆ และเป็นกำลังใจให้ค่ะพี่โบ้ทำเพื่อบ้านเมืองสู้ๆ นะคะประชาชนคนนี้ ขอบคุณที่ไม่ทิ้งลุง

  24 กุมภาพันธ์ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติลงพื้นที่เตรียมความพร้อมเวทีปราศรัยที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดอีกครั้ง ก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่พร้อมแกนนำพรรครมไทยสร้างชาติในวันพรุ่งนี้  นายเสกสกล ยืนยันถึงความพร้อมทุกด้าน พร้อมเปิดเผยว่าในเวทีวันพรุ่งนี้เรื่องที่เซอร์ไพรส์ที่สุดคือการเอานายกฯลุงตู่กลับบ้านเกิด ในฐานะลูกอีสานหลานย่าโม  และ เซอร์ไพส์เรื่องที่ 2 คือการที่นายกฯลุงตู่ จะประกาศบนเวทีปราศรัยเป็นผู้นำพรรครวมไทยสร้างชาติในการจะเปิดประตูสู่อีสานรวมถึงพูดถึงเรื่องนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ทำต่อ” คืออะไร ขณะเดียวกันจะมีแคมเปญใหม่ๆ นโยบายของพรรค ที่คิดไว้ก็จะเกิดขึ้นที่เวทีนี้เช่นกัน นายเสกสกลยังระบุว่าการปราศรัยเวทีนี้ยังเป็นการปราศรัยที่พร้อมที่สุด และมีประชาชนมาฟังการปราศรัยมากที่สุด เป็นการเปิดเวทีที่ใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดทั้งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์แนวทางการทำงานของพรรคที่ชัดเจนที่สุด จึงอยากให้ประชาชนได้ติดตาม

 23 กุมภาพันธ์ นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิจารณ์พลเอกประยุทธ์ถึงเหตุผลที่จะอยู่เป็นนายกฯเพราะสามารถเคลียร์เรื่องราวต่าง ๆ ได้โดยเฉพาะเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น หรือคดีต่างๆ ที่ใช้อำนาจไปในทางมิชอบซึ่งมีมากกว่า 300 คดี โดยระบุว่า นายจาตุรนต์ ไม่ต้องเอาบรรทัดฐานของนายกฯที่มาจากพรรคเพื่อไทย หรือไทยรักไทย ที่ถูกดำเนินคดีทุจริต จนหนีไปต่างประเทศ มาเปรียบเทียบและมองว่านายกฯคนอื่นจะเป็นเช่นเดียวกัน  เพราะยืนยันได้ว่าตั้งแต่นายกฯประยุทธ์ บริหารประเทศไม่เคยมีเรื่องทุจริตคอรัปชั่นแม้แต่บาทเดียว  นายชนะศักดิ์ ยืนยันว่าการที่นายกฯประยุทธ์เข้าสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้ง เพราะต้องการทำงานเพื่อประเทศชาติ บ้านเมือง สานงานต่อที่ทำเอาไว้ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น หรือคดีต่างๆ  ซึ่งที่ผ่านมานายกฯให้ความสำคัญกับการทำตามกฎหมาย ใครผิดก็เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอยู่แล้ว  “นายจาตุรนต์ อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะทำทุจริต เช่นเดียวกันกับนายใหญ่ นายหญิง ของพรรคเพื่อไทย และในประเทศนี้คนที่มาเ

   วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 15.30 น. นายเสกสกล  อัตถาวงศ์  ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติได้เดินทางไปที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อตรวจดูสถานที่และเวทีเตรียมการปราศรัยใหญ่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค รทสช.ทั้ง 132 เขต ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน ในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ความยาว 40 เมตร ลึก 15 เมตร พร้อมกับมีการตั้งโครงเหล็กหลังเวที เพื่อเตรียมที่จะติดตั้งจอ LED ยักษ์ ขนาดความกว้าง 40 เมตร สูง 5 เมตร บนเวทีปราศรัย อีกทั้งจะมีการติดตั้งเครื่องเสียงทั่วบริเวณ ติดตั้งจอ LED ขนาด 4X6 เมตร ทั้ง 4 มุมของสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาและที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) รับนายกรัฐมนตรีสักการะท้าวสุรนารีอีกด้วย เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมฟังการปราศรัย ได้เห็นหน้า พล.อ.ประยุทธ์ฯ ขึ้นปราศรัยใหญ่อย่างทั่วถึง ซึ่งทีมงานได้เตรียมเก้าอี้ไว้จำนวนกว่า 3 หมื่นตัว เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาจาก 20 จังหวัดทั่วทั้งภาคอีสาน เพื่อมาร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้ โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งเป้าไว้ว่า

 22 กุมภาพันธุ์ 2566 นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร  หรือ โทนี่ วู้ดซัม ที่พูดในรายการ Care ClubHouse CareTalk 7 Episodes ว่า “ขายบ้านแถมสัญชาติ คนพูดน่าจะไม่ใช่คน น่าจะเป็นควาย” โดย นายชนะศักดิ์กล่าวว่า วลีขายบ้านแถมสัญชาตินั้น เป็นวลีที่นายกฯประยุทธ์ สรุปความกรณี ตู้ห่าว กลุ่มทุนจีนสีเทา  กว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อบ้านจากบริษัทที่รู้กันดีว่าใครเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวใดบ้าง และรัฐบาลชุดไหน รัฐมนตรีมหาดไทยคนใด ที่เป็นผู้อนุญาตให้สัญชาติไทยกับตู้หาว ซึ่งวันนี้สังคมก็ได้ประจักษ์ชัดแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายชนะศักดิ์กล่าวต่อไปว่า กรณีนายตู้ห่าว ถ้าเป็นรัฐบาลชุดอื่น คงเงียบกริบ แต่รัฐบาลนายกฯประยุทธ์มีการขยายผลดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดำเนินการภายใต้รัฐบาลนี้ ตรงกันข้ามหากเป็นรัฐบาลเครือข่ายนายทักษิณมีอำนาจ จะเอาผิดคนที่กว้านซื้อบ้านจากบริษัทครอบครัวตัวเอง และดำเนินคดีกับคนที่ได้อนุญาตสัญชาติไทย ในรัฐบาลตัวเองหรือไม่ "